ตั้งแต่อดีตสิ่งที่อยู่คู่กับทุกชีวิตตั้งแต่อดีตกาลมาโดยตลอดไม่ว่า จะเป็น ไดโนเสาร์ สัตว์ พืช แมลง รวมถึง มนุษย์
ต่างต้องใช้ชีวิตกับ น้ำ แน่นอน หลายๆชีวิตขาดน้ำไม่ได้โดยหลักการแล้วน้ำเป็นองค์ประกอบหนึ่งของร่างกาย อีกทั้งโลกในนี้ยังประกอบไปด้วยน้ำถึง 3ใน4ส่วนของโลก ทำให้น้ำมีพลังงานสะสมอยู่เป็นจำนวนมาก มนุษย์เราจึงได้นำพลังงานน้ำนี้มาใช้เป็นเวลายาวนานโดยการสร้าง กังหันน้ำ ชักรอกเพื่อการ ในการทำการเกษตร อย่างที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยโรมัน หรือ อินเดียที่ลุมน้ำเมดิเตเรียนสมัยยุคเมโสโปเตเมียที่ตั้งอยู่แถบแม่น้ำไทกริ สและแม่น้ำยูเฟรทีส ได้ทำกังหันน้ำที่ใช้เพื่อการเกษตร หรือจะเป็นประเทศจีนที่ ได้มีการใช้พลังงานน้ำเพื่อการชลประทาน ต่อมามนุษย์ได้ทำการประยุกต์พลังงานน้ำเหล่านี้เพื่อนำไปใช้แก่สถานที่ห่าง ไกลจากแหล่งน้ำ โดยการสร้างกังหันน้ำหมุนเพื่อขับเครื่องพลังงานไฟฟ้า โดยส่วนใหญ่นั้นจะมาจากน้ำตก หรือน้ำขึ้นน้ำลง
ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้ก็ยังคงมีการใช้พลังงานน้ำกันอย่างแพร่หลายในหลายๆ ประเทศ เนื่องจากพลังงานน้ำมีประโยชน์มากมายนัก เพราะว่า พลังงานน้ำสามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้เรื่อยๆ ไม่มีวันจบเพราะเมื่อเราใช้พลังงานน้ำไป น้ำไหลลงสู่มหาสมุทรน้ำได้รับ พลังงานแสงอาทิตย์ กลายเป็นไอน้ำ ระเหยขึ้นไปบนท้องฟ้า ก่อตัวเป็นเมฆ เมื่อระเหยมากๆ เกราะตัวกันเป็นก้อนใหญ่ ก็กลายเป็นฝน ตกมายังแหล่งน้ำใหม่ เพื่อนำกลับมาใช้พลังงานน้ำใหม่กลายเป็นวัฎจักร ส่วนสำคัญอีกหนึ่งอย่างของพลังงานน้ำคือสามารถผลิตพลังงานได้ในเวลาอันสั้น รวดเร็ว และสามารถทำการผลิตออกมาได้ใกล้กับค่าความต้องการ พลังงานน้ำยังใช้ทำประโยชน์เกี่ยวกับการชลประทานได้
ประเทศไทยใช้ไฟฟ้าจากการผลิตด้วยพลังงานน้ำ ประมาณ 5-6 % ของปริมาณการใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศซึ่งได้มาจากการสร้างเขื่อนต่างๆ เช่น เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิต์ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์