พลังงานน้ำนั้นมีการใช้ ประโยชน์มาตั้งแต่สมัยโบราณและมีการใช้ประโยชน์ของแต่ละประเทศที่แตกต่างกัน ออกไป อย่างเช่นในประเทศจีน คนจีนส่วนใหญ่จะหล่อหม้อ หรือปั้นหมอเพื่อนำมาวิดน้ำเพื่อการชลประทาน โดยเมื่อประมาณ 700 กว่าปีก่อน ประเทศจีนได้มีเศรษฐกิจที่เฟื่องฟูมาก เพราะได้มีการขุดคลองต่างๆ เพื่อใช้ใน การค้าขายทางน้ำจึงทำให้ผู้คน(ชาวบ้าน)ในสมัยนั้นมีฐานะที่ดีมากๆ และก็เป็นประเทศที่ถือได้ว่ามีความเจริญและรุ่งเรืองจนถึงขีดสุดกันเลยที เดียว
บ้านเราก็มีการใช้พลังงานน้ำโดยการใช้ในการชลประทานโดยเราเอามาใช้ประโยชน์ ในเรื่องของโรงเรือน การสี การทอผ้าต่างๆ เป็นต้น
มาถึงประเทศอินเดีย และชาวโรมัน ได้นำกังหันน้ำมาดัดแปลงให้เป็นเครื่องโม่แป้งจากเมล็ดพืชต่างๆ เนื่องจากโดยชาว โรมัน กินแป้งกันเป็นอาหารหลัก
ในปัจจุบันมีการใช้พลังน้ำโดย การนำมาผลิตเป็นกระแสไฟฟ้ากันในส่วนใหญ่ โดยที่พลังงานน้ำจะได้มาโดยแหล่งน้ำที่มีอยู่ทั่วไปจะมีด้วยกัน 3 ประเภท ดังนี้
1.พลังงานน้ำตก พลังงานน้ำตกถือได้ว่าเป็นพลังงานน้ำที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากที่สุดและเร็ว ที่สุดอีกด้วย โดยการผลิตกระแสไฟฟ้าไว้ใช้นั้นจะมีการใช้กังหันน้ำเป็นตัวแปลจากพลังงานของ น้ำตก โดยการที่ให้กังหันน้ำรับแรงตกของน้ำจากน้ำตกลงมาสู้ตัวกังหันน้ำนั้นจะก่อ ให้เกิดการหมุนของตัวกังหันน้ำจนก่อให้เกิดการผลิตไฟฟ้าซึ่งแรงของน้ำตก สามารถสร้างกระแสไฟฟ้าได้มากและคงตัวมากถือได้ว่าน้ำตกคือพลังงานน้ำที่ผลิต ไฟฟ้าได้ดีที่สุดเลยก็ว่าได้
2.พลังงานน้ำขึ้นน้ำลง พลังงานน้ำขึ้นน้ำลงสามารถนำมาใช้ผลิตไฟฟ้าได้เช่นเดียวกัน โดยการกักเก็บน้ำไว้ในอ่างกักเก็บน้ำโดยเฉพาะในเวลาที่น้ำขึ้น พอถึงเวลาน้ำลงก็จะใช้กังหันน้ำไปตั้งที่ปากอ่างของอ่างเก็บน้ำเพื่อที่จะ ให้น้ำได้ไหลลงมาสู้กังหันน้ำและกังหันน้ำก็จะเกิดการหมุนตัวโดยจะต่อไปกับ เครื่องผลิตไฟฟ้า
พลังงานน้ำขึ้นน้ำลงสามารส ร้างกระแสไฟฟ้าได้ไม่มากเท่าไหร่แต่ก็สามารถใช้ประโยชน์จากพลังงานน้ำขึ้น น้ำลงได้ ก็ถือได้ว่าเป็นทางเลือกที่ดีเลยไม่น้อยที่จะใช้พลังงานน้พให้เป็นประโยชน์
3.พลังงานคลื่น พลังงานคลื่นถือได้ว่าเป็นพลังงานลม+น้ำ โดยเราจะใช้กังหันน้ำแบบลอยตัวในการเป็นตัวรับแรงของคลื่นเพื่อไปแปลเป็น ไฟฟ้า พลังงานคลื่นนั้นเป็นพลังที่ไม่คงที่ แต่ก็มีประโยชน์ในการผลิตไฟฟ้าได้ไม่น้อยเลยที่เดียว